อัมพวา และบ้านฝน (โฮมสเตย์) ที่คิดถึง..
(26 กันยายน 2552)

ผ่านไปอีกครั้งกับการท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่น่ารักและเป็นกันเองเสมอ ถึงแม้ว่าบางคนจะเข้ามาร่วมกับทริปเราเป็นครั้งแรก ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเหมือนพึ่งมาพบกันแต่อย่างใด ก็กำลังพูดถึงพี่ป๊อก , พี่โจ้ , น้องดาก้อน , พี่ตี่ นะครับ ก่อนอื่นต้องขอบคุณจากใจจริงครับที่สนใจมาท่องเที่ยวกับพวกเรา ส่วนเพื่อนๆ ที่มารวมตัวกันครั้งนี้ ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าครั้งที่แล้วเลย ไม่ว่าจะเป็น พี่แอ๋น,พี่แก้ว,พี่เอ๋,พี่โก้พี่หนึ่ง,พี่โป้ง,พี่โป้ง(IT),พี่ยา,พี่อูม ทุกคนที่มาร่วมทริปครั้งนี้ต่างสนุกสนานกันเต็มที่ เพราะตอนแรกก็คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะไปเที่ยวไหนกันดี พอลงเอยที่อัมพวาทุกคนก็บอกว่าอยากไป พวกเราก็เลยตัดสินใจมาที่นี่ครับ ?อัมพวา?

เวลา 7.00 น. วันเสาร์ที่ 26 ก.ย. 52 พวกเรารวมตัวกันที่บริษัท กฤษดานคร เปลี่ยนเสื้อเป็นทีมเดียวกัน SAVE WORLD LIFE งานนี้พี่แก้วจัดเตรียมมาให้ ใส่กันทุกคนมองแล้วสวยมากๆ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ว่าแล้วก็ลงมือกินข้าวเหนียวไก่ย่างกันก่อนอันนี้อภินันทนาการจากพี่แก้วอีกเช่นกัน ต้องขอขอบคุณครับ อร่อยจริงๆ เห็นบอกว่าพึ่งนึ่งข้าวเหนียวครั้งแรกด้วย รถออกจากกฤษดานครเวลา 8.00 น. ก่อนอื่นจะเรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมแล้วสำหรับการท่องเที่ยวของพวกเราที่ต้องแวะวัดไหว้พระกันก่อนครับ ครั้งนี้เราแวะวัดเกตุมดีศรีวราราม (สมุทรสาคร) ที่เป็นทางผ่านของเราพอดี วัดเกตุมดีศรีวราราม (เกตุ ส่วนสูงสุด มดี มติ ความปรารถนา ปณิธาน ศรี คิริมงคล วร ประเสริฐ อาราม ที่อยู่ แปลรวมกันว่า ที่อยู่อาศัยอันประเสริฐที่เป็นมงคลมหาสถานของผู้ที่มีความปรารถนาอันสูงสุด) วัดนี้ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ ท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ (เจิม คุณาบุตร) พร้อมด้วยญาติมิตรเป็นผู้ได้บุกเบิกและค้นหาที่สร้างบารมี ได้เปิดสถานที่นี้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานและได้เป็นสำนักสงฆ์ และต่อมาได้พัฒนาสร้างเป็นวัด ครับ แวะสักพักก็เดินทางกันต่อ
นั่งรถยังไม่ทันเมื่อยเลยก็มาถึงอัมพวาครับก่อนอื่นเราเข้าที่พักกันก่อนที่?บ้านฝนโฮมสเตย์? โฮมสเตย์ธรรมชาติ ในสวนริมคลอง บรรยากาศดีมากครับ

พอถึงบ้านคุณฝนก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก คุณพ่อ และคุณแม่ของคุณฝนที่กำลังจัดเตรียมที่พักไว้ให้เรา และยิ่งกว่านั้นยังได้รับการต้อนรับจากไอ้ตูบหลายตัวของคุณฝนอีกด้วย แต่ถึงครั้งนี้จะไม่ได้เจอกับคุณฝนแต่ก็ทำให้เราได้เหมือนอยู่ใกล้ชิดกันนะครับ ต่างคนก็เก็บของเข้าที่พักกันจ้าละหวั่นเลย แหมๆ ถึงปุ๊บก็เริ่มกินปั๊บ เมนูแรกของเราที่บ้านฝน ขาดไม่ได้เลยคือ ส้มตำ โดยเฉพาะส้มตำปูและไข่เค็มฝีมือพี่หนึ่ง อร่อยมากมาย

ระหว่างนั้นมียายพายเรือมาขายขนมเป็นขนมไทยๆ ครับ น่ากินมากเห็นพวกพี่ๆไปซื้อกันหลายคนไม่ว่าจะเป็นพี่แก้ว,พี่แอ๋น,พี่หนึ่ง,พี่ป๊อก โดยเฉพาะพี่ป๊อกไปคุยกะยายซะนานไม่รู้ว่าต่อรองราคาหรือแอบจีบยายก็ไม่รู้ เอิ๊กๆๆ อิ่มสักพักทุกคนก็พักผ่อนตามอัธยาศัย

จนถึงเวลา 14.00 น. พ่อคุณฝนก็ทำหน้าที่เป็นไกด์พาเราเดินเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา โดยระหว่างทางได้แวะชม โรงเจอัมพวาครับ โรงเจนี้ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับบ้านคุณฝนเลยครับ จัดตั้งเพื่อกิจกรรมทางศาสนา เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ จัดเทศกาลกินเจและประเพณีทิ้งกระจาด โดยปัจจุบันกำลังก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม 1,000 มือที่ทำจากไม้สัก สวยมากครับ เห็นว่าได้ช่างมาจากเมืองจีน แวะชมกันสักพักก็เดินทางกันต่อ โดยได้แวะร้านผลิตภัณฑ์จากไม้ริมคลอง สงสัยกลัวอากาศจะร้อนเห็นสาวๆ ซื้อพัดที่สานจากไม้กันใหญ่เลยแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เดินกันต่อพ่อคุณฝนพาแวะ บ้านเฉาก๊วย อัมพวา เฉาก๊วย ปีโป๊ หวานอร่อย รับประทานได้เลย พอเข้าไปที่ร้านได้แวะคุยกับพ่อค้า เกี่ยวกับการทำเฉาก๊วย เห็นว่าสั่งตรงมาจากเมืองจีนเลยน่ะ ถ้าทำเสร็จแล้วสามารถเก็บไว้ทานได้นานถึงสองอาทิตย์เลย แต่ที่สำคัญ พ่อค้าเฉาก๊วยหล่อมั๊กๆๆ ก็อดไม่ได้ที่สาวๆ ของทิปเราจะขอถ่ายรูปเก็บไว้ สักพักก็เดินกันต่อมาถึงตลาดน้ำอัมพวาครับ ตลาดน้ำอัมพวาเป็นตลาดริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ และมีรถเข็นขายของบนบกด้วย บรรยากาศสบาย ๆ มีเพลงฟัง จากเสียงตามสายของชาวชุมชน ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิ่งห้อยในยามค่ำคืนได้ ครับ พวกเพื่อนๆ ต่างหาสถานที่สวยๆ ถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึกอยู่นานพอสมควรเลยครับ จนพี่ตี่พี่หนึ่งพี่อูม ต้องแอบไปกินผัดไท ป้าพร ที่เขาว่ากันว่าอร่อยมาก และราคาไม่แพงอีกด้วยก็เลยหม่ำซะคนละจาน โอยอร่อยจริงแฮะ เดินไปเดินมาชักเริ่มเมื่อยเลยแอบไปนวดเท้าซะหน่อยแหมหมอนวดก็นวดดีจริงๆ หลับซะเลย บางทีก็จั๊กกะจี้ซะจนอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ
เวลา 18.00 น. เป็นเวลาที่คุณพ่อคุณฝนนัด พวกเรานั่งเรือเที่ยวชมหิ่งห้อยกันที่แม่น้ำแม่กลอง ก่อนถึงจุดชมหิ่งห้อยคนขับเรือได้พาแวะวัดจุฬามณี วัดนี้สวยมากครับเป็นวัดโบราณริมฝั่งคลองอัมพวาต่อเนื่องกับคลองผีหลอก วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สันนิษฐานว่า ท้าวแก้วผลึก (น้อย) นายตลาดบางช้าง ต้นวงศ์ราชินิกุลบางช้างเป็นผู้สร้างขึ้น ครับ พอไหว้พระเสร็จก็มุ่งหน้าไปชมหิ่งห้อยกันเลยครับ
ขับเรือไปซักพักเราก็เจอหิ่งห้อยที่เกาะอยู่บนต้นไม้เต็มไปหมด บางต้นมีหิ่งห้อยเกาะอยู่เยอะมากแสงสีเหลืองจากหิ่งห้อยทำให้ต้นไม้สว่างเลยก็ว่าได้ครับ ยิ่งช่วงนี้ฝนตก คนขับเรือบอกว่าหิ่งห้อยจะเยอะเป็นพิเศษ นับว่าโชคดีของพวกเราจริงๆ ที่มาช่วงนี้พอดี
พอดูหิ่งห้อยเสร็จกลับกันมาถึงที่พัก ก็เริ่มทำอาหารการกินกันต่อเลย ช่วงนี้สนุกกันสุดๆเลยครับ พี่หนึ่งทำส้มตำแบบมื้อกลางวัน แต่ยังคงรถชาติเหมือนเดิม พี่อูมทำไก่อบ 2 ตัว , และคอหมูย่าง ได้ข่าวว่าอร่อยมากมายแต่ต้องใช้เวลาหน่อยบางคนรอจนหลับ แหมๆ หันไปมองพี่แก้วก็ไม่น้อยหน้าใครเลยน่ะ ต้มยำซี่โครงหมู ก็อร่อยไม่เบา เห็นปรุงอยู่หลายรอบเหมือนกัน อิอิ ที่ขาดไม่ได้ก็ต้องเป็นข้าวน่ะ คราวนี้พี่แอ๋นแสดงฝีมือหุงข้าวได้ดีมากไม่เละเหมือนครั้งก่อน อาวชมหรือว่ากันแน่ เรียกว่ากินกันแหลกครั้งนี้ ท้องจะแตกถึงขนาดกินกันไม่หมด ศิริรวมก็ ส้มตำ 5 จาน ไก่อบ 2 ตัว คอหมูย่าง 1 จาน ต้มยำ 1 หม้อ โอ้ยเหลือ...ตามเคยครับ พี่ยา,พี่โป้งก็มาจัดการเก็บล้างอีกเช่นเดิม ดีจริงๆ เสร็จจากการกินของพวกเราแล้วก็ต่างคนต่างอาบน้ำและทำกิจกรรมของแต่ละคน โดยเฉพาะพี่ป๊อกงานนี้เตรียมเพลงมาร้องหลายเพลงเลยครับแต่หลังๆ ชักเริ่มฟังไม่เป็นเพลงแล้วน่ะ สักพักทุกคนก็พักผ่อนตามอัธยาศัย แล้วเข้านอนครับ
ตื่นเช้ามาของวันอาทิตย์ที่ 27 ก.ย. 52 มื้อเช้านี้ต้องยอมเขาเลยสำหรับคนนี้คับ จะเป็นใครไปไม่ได้ก็พี่เอ๋นี่ล่ะ เพราะเมี่ยงปลาทูเขาอร่อยมาก โดยเฉพาะน้ำจิ้มรสเด็จ จี๊ดจ๊าดเหมือนคนทำจริงๆ เห็นพี่หนึ่งนั่งกินจนลุกไม่ขึ้นเลยน่ะ แถมยังอาหารเช้าที่พ่อคุณฝนเตรียมมาให้อีก ไม่ว่าจะเป็นข้าวมันไก่ข้าวหมูแดง เยอะมากมาย พอเสร็จจากรับประทานอาหารเช้า ก็เล่นน้ำคลองกันต่อบางคนก็พายเรือเล่นอย่างสนุกสนานและไปแวะชมการทำน้ำตาลมะพร้าว แถมปีนต้นมะพร้าวเล่นกันสนุกสนานครับ เสร็จเรียบร้อยก็เตรียมตัวกลับกรุงเทพละครับ

ปล.ขอบคุณจากใจจริงสำหรับทุกๆคนที่มาร่วมทริปกับเราในครั้งนี้ครับ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้เราได้พบกัน คุยกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และก็สนุกสนานร่วมกันและที่สำคัญเราได้ความรู้สึกดีๆต่อกัน หวังว่าโอกาสหน้าเราคงได้มาพบกันอีก และที่ขาดไม่ได้ต้องขอขอบคุณบ้านฝนโฮมสเตย์ครับกับความอบอุ่นที่มอบให้ตลอดทริปและสุดท้ายนี้ขอขอบคุณสถานที่ท่องเที่ยวของเราในครั้งนี้ครับพวกเราคงไม่มีวันลืมและจดจำไปอีกนานคิดถึงจริงๆ ?อัมพวา?..............
คณิต 30/09/52 : ผู้เขียน
(ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าที่ส่งผ่านมาทางอีเมลล์ fonnumfa@hotmail.com หากเพื่อนๆไปเที่ยวบ้านฝนมาแล้ว ส่งเรื่องเล่าประทับใจกลับมาหาฝนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ/ฝน) |